หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

สรุปการไปศึกษาดูงานของสาขาวิชาการจัดการ ประจำภาคเรียนที่ 2/2560

1. บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด (มหาชน) 

ที่มา :  http://thaicma.or.th/cms/member/jalaprthan/


ประวัติความเป็นมา
          เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง รัฐบาลไทยในขณะนั้นได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนในการฟื้นฟ ูและ พัฒนาประเทศ และโดยที่ไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญขั้นพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม รัฐบาลจึงได้มีมติให้สร้างเขื่อนอเนกประสงค์เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า และ เพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ อำเภอสามเงา จังหวัดตาก โดยได้รับพระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อของเขื่อนแห่งนี้ว่า "เขื่อนภูมิพล"
          การก่อสร้างเขื่อนภูมิพลจำเป็นต้องใช้ปูนซีเมนต์อย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 300,000 ตัน ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดการขาดแคลนปูนซีเมนต์ในระหว่างการก่อสร้าง รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างเขื่อนภูมิพล ดำเนินการจัดตั้งโรงงานปูนซีเมนต์ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อผลิตปูนซีเมนต์สำหรับใช้ในการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้้
          บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2499 ต่อมาในปี พ.ศ. 2501 บริษัทฯ ได้ทำการก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์แห่งแรกขึ้นที่ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางเหนือประมาณ 185 กิโลเมตร ในระยะแรกโรงงานมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์วันละ 360 ตัน และต่อมาได้มีการปรับปรุงเป็นระยะๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้โรงงานตาคลีมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ 2,700 ตันต่อวัน
          เมื่อความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด จึงได้สร้างโรงงานปูนซีเมนต์แห่งที่สองขึ้นที่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 200 กิโลเมตร การก่อสร้างโรงงานชะอำเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2512 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2514 และ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดโรงงาน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 ในระยะแรกโรงงานชะอำมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ได้วันละ 1,560 ตัน ต่อมาได้มีการปรับปรุงเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยการปรับปรุงในระยะแรกได้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2533 ทำให้มีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นเป็น 2,100 ตันต่อวัน และเมื่อการปรับปรุงในระยะที่สองแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525 กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของโรงงานชะอำจึงเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2,700 ตัน
          ปัจจุบันนี้ โรงงานปูนซีเมนต์ของบริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด ทั้งสองแห่งคือ โรงงานตาคลีและโรงงานชะอำ มีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์รวมกันทั้งสิ้นปีละ 2.3 ล้าน ตัน และผลิตปูนซีเมนต์ออกจำหน่ายหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่
ที่มา : http://thaitechno.net/dip/home.php?uid=44802
  • ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท I ; i.work บัวแดง , i.pro บัวแดง เอ๊กซ์ตร้า
  • ปูนซีเมนต์ผสม; i.pro บัวเขียว i.pro บัวฟ้า i.pro บัวซูเปอร์ 
  • ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท III ; i.speed บัวดำ
  • ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท V ;  i.idro บัวฉลาม
  • ปูนซีเมนต์สำหรับงานขุดเจาะบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ;  i.tech Well Cement 
  • ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก; i.pro บัวแดงไฮเทค 
  • ปูนสำเร็จรูป บัวมอร์ตาร์ เบสิค มี 4  ประเภท
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ : ฉาบทั่วไป
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ : ก่อทั่วไป
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ : ฉาบอิฐมวลเบา
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ : ก่ออิฐมวลเบา
  • ปูนสำเร็จรูป บัวมอร์ตาร์เทคนิคคอลมอร์ตาร์ มี 7 ประเภท 
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ กาวซีเมนต์ FIX 
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ กาวซีเมนต์ FIX XL
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ สกิมโค้ท สีเทา
    • i.design บัวมอร์ตาร์ สกิมโค้ท สีขาว  
          ในปี พ.ศ. 2546 บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด และบริษัท ปูนซีเมนต์เอซีย จำกัด (มหาชน) ได้ผนวกการบริหารงานเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริการ เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และรวมการบริหารจัดการทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้เป็นไปในทิศ ทางเดียวกัน อาทิ บัญชีและการเงิน การตลาดและการขาย การผลิต การจัดซื้อและจัดหา ทรัพยากรบุคคล และอื่นๆ ภายใต้การบริหารงานของทีมงานมืออาชีพ ทำให้ในปัจจุบันบริษัทฯ สามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

2.  บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)


ที่มา : http://www.scgpackaging.com/services-solution/merchandising-display/TH

ประวัติความเป็นมา

             เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ได้เปลี่ยนชื่อจาก เอสซีจี เปเปอร์ เป็น เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา   บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของเอสซีจี ที่มุ่งสู่การเป็นคู่คิดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในด้านบรรจุภัณฑ์ (Total Packaging Solutions Provider) ด้วยการนำเสนอนวัตกรรม สินค้า และบริการที่หลากหลาย รวมถึงคำตอบที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ ช่วยสร้างคุณค่าแก่ลูกค้าและผู้บริโภคโดยบุคลากรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเทียบชั้นมาตรฐานระดับโลก ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และถือมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เอสซีจี แพคเกจจิ้ง นำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า อาทิ 
บรรจุภัณฑ์กระดาษ
ที่มา : http://www.scgpackaging.com/industrial-packaging/paper-packaging/4/TH

ที่มา : http://www.scgpackaging.com/industrial-packaging/paper-packaging/4/TH

Flexible Packaging
ที่มา : http://www.scgpackaging.com/industrial-packaging/flexible-packaging/TH

Food Safety Packaging
ที่มา : http://festforfood.com/product/PP001.php

ที่มา : http://festforfood.com/product/PP001.php


เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ Pre-print และ Offset นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าและทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น Inspired Studio ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา การออกแบบและผลิตงานด้านกราฟิกต่างๆ เชิงสร้างสรรค์และใช้สอยเชิงพาณิชย์ด้วยทีมงานมืออาชีพ ที่จะช่วยนำเสนอคำตอบเหนือข้อจำกัดให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศในอาเซียน เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ใส่ใจในการพัฒนากระบวนการผลิตและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งพัฒนากระบวนการดำเนินงานทั้งหมดให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์
     เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ใส่ใจในการพัฒนากระบวนการผลิตและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งพัฒนากระบวนการดำเนินงานทั้งหมดให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ มุ่งเน้นการจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการนำทรัพยากรกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ในรูปของวัตถุดิบหรือพลังงานเพื่อลดมลภาวะที่เกิดขึ้นและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่นอกเหนือจากการดำเนินงานให้ความสำคัญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมและชุมชนรอบพื้นที่โรงงาน ใส่ใจและดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาระบบนิเวศที่ดีของชุมชน ส่งเสริมการปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานให้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมและทำสาธารณประโยชน์ร่วมกับชุมชน เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาดูงาน


          1. ได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของทั้ง2บริษัท ตลอดจนวิสัยทัศน์ ภารกิจและนโยบายการดำเนินงาน ทำให้ได้รับความรู้ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น และสามารถนำเอาความรู้ที่ได้จากการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้ในการเรียนและการทำงานในอนาต
         2. เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ตนเอง ให้ได้รับความรู้และสัมผัสกับสถานที่ที่ได้ไปศึกษาดูงานโดยตรง นอกเหนือจากการนั่งเรียนในชั้นเรียนเพียงอย่างเดียว
          3. ได้แลกเปลี่ยนมุมมองทัศนคติ และแชร์ความรู้ที่ได้รับจากการไปศึกษาดูงานกับเพื่อนร่วมสาขา
          4. มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมสาขามากขึ้น

💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น