หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

สรุปการไปศึกษาดูงานของสาขาวิชาการจัดการ ประจำภาคเรียนที่ 2/2560

1. บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด (มหาชน) 

ที่มา :  http://thaicma.or.th/cms/member/jalaprthan/


ประวัติความเป็นมา
          เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง รัฐบาลไทยในขณะนั้นได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนในการฟื้นฟ ูและ พัฒนาประเทศ และโดยที่ไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญขั้นพื้นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม รัฐบาลจึงได้มีมติให้สร้างเขื่อนอเนกประสงค์เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า และ เพื่อประโยชน์ในด้านการชลประทานขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ อำเภอสามเงา จังหวัดตาก โดยได้รับพระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อของเขื่อนแห่งนี้ว่า "เขื่อนภูมิพล"
          การก่อสร้างเขื่อนภูมิพลจำเป็นต้องใช้ปูนซีเมนต์อย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 300,000 ตัน ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดการขาดแคลนปูนซีเมนต์ในระหว่างการก่อสร้าง รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการก่อสร้างเขื่อนภูมิพล ดำเนินการจัดตั้งโรงงานปูนซีเมนต์ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อผลิตปูนซีเมนต์สำหรับใช้ในการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้้
          บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2499 ต่อมาในปี พ.ศ. 2501 บริษัทฯ ได้ทำการก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์แห่งแรกขึ้นที่ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางเหนือประมาณ 185 กิโลเมตร ในระยะแรกโรงงานมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์วันละ 360 ตัน และต่อมาได้มีการปรับปรุงเป็นระยะๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้โรงงานตาคลีมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ 2,700 ตันต่อวัน
          เมื่อความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด จึงได้สร้างโรงงานปูนซีเมนต์แห่งที่สองขึ้นที่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 200 กิโลเมตร การก่อสร้างโรงงานชะอำเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2512 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2514 และ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดโรงงาน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 ในระยะแรกโรงงานชะอำมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ได้วันละ 1,560 ตัน ต่อมาได้มีการปรับปรุงเพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น โดยการปรับปรุงในระยะแรกได้แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2533 ทำให้มีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นเป็น 2,100 ตันต่อวัน และเมื่อการปรับปรุงในระยะที่สองแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2525 กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของโรงงานชะอำจึงเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2,700 ตัน
          ปัจจุบันนี้ โรงงานปูนซีเมนต์ของบริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด ทั้งสองแห่งคือ โรงงานตาคลีและโรงงานชะอำ มีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์รวมกันทั้งสิ้นปีละ 2.3 ล้าน ตัน และผลิตปูนซีเมนต์ออกจำหน่ายหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่
ที่มา : http://thaitechno.net/dip/home.php?uid=44802
  • ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท I ; i.work บัวแดง , i.pro บัวแดง เอ๊กซ์ตร้า
  • ปูนซีเมนต์ผสม; i.pro บัวเขียว i.pro บัวฟ้า i.pro บัวซูเปอร์ 
  • ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท III ; i.speed บัวดำ
  • ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ประเภท V ;  i.idro บัวฉลาม
  • ปูนซีเมนต์สำหรับงานขุดเจาะบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ;  i.tech Well Cement 
  • ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก; i.pro บัวแดงไฮเทค 
  • ปูนสำเร็จรูป บัวมอร์ตาร์ เบสิค มี 4  ประเภท
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ : ฉาบทั่วไป
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ : ก่อทั่วไป
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ : ฉาบอิฐมวลเบา
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ : ก่ออิฐมวลเบา
  • ปูนสำเร็จรูป บัวมอร์ตาร์เทคนิคคอลมอร์ตาร์ มี 7 ประเภท 
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ กาวซีเมนต์ FIX 
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ กาวซีเมนต์ FIX XL
    • i.pro บัวมอร์ตาร์ สกิมโค้ท สีเทา
    • i.design บัวมอร์ตาร์ สกิมโค้ท สีขาว  
          ในปี พ.ศ. 2546 บริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด และบริษัท ปูนซีเมนต์เอซีย จำกัด (มหาชน) ได้ผนวกการบริหารงานเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริการ เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และรวมการบริหารจัดการทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้เป็นไปในทิศ ทางเดียวกัน อาทิ บัญชีและการเงิน การตลาดและการขาย การผลิต การจัดซื้อและจัดหา ทรัพยากรบุคคล และอื่นๆ ภายใต้การบริหารงานของทีมงานมืออาชีพ ทำให้ในปัจจุบันบริษัทฯ สามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

2.  บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน)


ที่มา : http://www.scgpackaging.com/services-solution/merchandising-display/TH

ประวัติความเป็นมา

             เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ได้เปลี่ยนชื่อจาก เอสซีจี เปเปอร์ เป็น เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา   บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของเอสซีจี ที่มุ่งสู่การเป็นคู่คิดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในด้านบรรจุภัณฑ์ (Total Packaging Solutions Provider) ด้วยการนำเสนอนวัตกรรม สินค้า และบริการที่หลากหลาย รวมถึงคำตอบที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์ ช่วยสร้างคุณค่าแก่ลูกค้าและผู้บริโภคโดยบุคลากรที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญเทียบชั้นมาตรฐานระดับโลก ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และถือมั่นในการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เอสซีจี แพคเกจจิ้ง นำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า อาทิ 
บรรจุภัณฑ์กระดาษ
ที่มา : http://www.scgpackaging.com/industrial-packaging/paper-packaging/4/TH

ที่มา : http://www.scgpackaging.com/industrial-packaging/paper-packaging/4/TH

Flexible Packaging
ที่มา : http://www.scgpackaging.com/industrial-packaging/flexible-packaging/TH

Food Safety Packaging
ที่มา : http://festforfood.com/product/PP001.php

ที่มา : http://festforfood.com/product/PP001.php


เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ Pre-print และ Offset นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าและทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น Inspired Studio ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา การออกแบบและผลิตงานด้านกราฟิกต่างๆ เชิงสร้างสรรค์และใช้สอยเชิงพาณิชย์ด้วยทีมงานมืออาชีพ ที่จะช่วยนำเสนอคำตอบเหนือข้อจำกัดให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศในอาเซียน เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ใส่ใจในการพัฒนากระบวนการผลิตและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งพัฒนากระบวนการดำเนินงานทั้งหมดให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์
     เอสซีจี แพคเกจจิ้ง ใส่ใจในการพัฒนากระบวนการผลิตและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งพัฒนากระบวนการดำเนินงานทั้งหมดให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ มุ่งเน้นการจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการนำทรัพยากรกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ในรูปของวัตถุดิบหรือพลังงานเพื่อลดมลภาวะที่เกิดขึ้นและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมที่นอกเหนือจากการดำเนินงานให้ความสำคัญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมและชุมชนรอบพื้นที่โรงงาน ใส่ใจและดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาระบบนิเวศที่ดีของชุมชน ส่งเสริมการปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงานให้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมและทำสาธารณประโยชน์ร่วมกับชุมชน เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ดีขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาดูงาน


          1. ได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของทั้ง2บริษัท ตลอดจนวิสัยทัศน์ ภารกิจและนโยบายการดำเนินงาน ทำให้ได้รับความรู้ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น และสามารถนำเอาความรู้ที่ได้จากการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้ในการเรียนและการทำงานในอนาต
         2. เป็นการเปิดโลกทัศน์ให้ตนเอง ให้ได้รับความรู้และสัมผัสกับสถานที่ที่ได้ไปศึกษาดูงานโดยตรง นอกเหนือจากการนั่งเรียนในชั้นเรียนเพียงอย่างเดียว
          3. ได้แลกเปลี่ยนมุมมองทัศนคติ และแชร์ความรู้ที่ได้รับจากการไปศึกษาดูงานกับเพื่อนร่วมสาขา
          4. มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมสาขามากขึ้น

💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙


วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 8 ระบบสารสนเทศสำหรับความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ กรณีศึกษาและแบบฝึกหัดท้ายบท

สรุปบทที่ 8 

ระบบสารสนเทศสำหรับความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์


ที่มา : https://www.qualitians.com/what-is-version-control/

แนวคิดกลยุทธ์ทางการแข่งขัน
                เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และความสามารถที่ทำให้เกิดความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์แก่บริษัทท่ามกลางแรงกดดันทางการแข่งขันที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ทุกวันในตลาดการค้าโลก เป็นระบบที่ช่วยเหลือหรือกำหนดตำแหน่งการแข่งขันในตลาดและกำหนดกลยุทธ์ของกิจการ การสร้างกลยุทธ์การแข่งขันพื้นฐาน 5 อย่าง
                1. กลยุทธ์การเป็นผู้นำด้านราคา
                2.กลยุทธ์ความแตกต่าง
                3.กลยุทธ์นวัตกรรม
                4.กลยุทธ์ความเจริญเติบโต
                5.กลยุทธ์สร้างพันธมิตร
รูปที่ 1 สภาพการแข่งขันทางอุตสาหกรรม ให้สังเกตแรงกดดันที่กำหนดผลกำไรและการอยู่รอดของบริษัทในวงการอุตสาหกรรมนั้น
บทบาททางกลยุทธ์สำหรับระบบสารสนเทศ
          - การปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจ บทบาทที่ก่อให้เกิดการพัฒนาที่สำคัญในขั้นตอนต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท การลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถช่วยให้ขั้นตอนในการปฏิบัติงานภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถทำให้บริษัทลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพและการให้บริการแก่ลูกค้าและสามารถพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์สำหรับการเปิดตลาดใหม่อีกด้วย
          - การส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ สามารถให้ผลดีในการพัฒนาสินค้าและบริการหรือขั้นตอนการทำงานที่มีเอกภาพ
          -การควบคุมลูกค้าและผู้จัดหาสินค้า ทำให้ธุรกิจสามารถควบคุมสินค้าและผู้จัดหาสินค้า ให้มาทำธุรกิจด้วยกัน
          -การสร้างกลไกต้นทุนการเปลี่ยนแปลง การหาหนทางสร้างกลไกต้นทุนการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับลูกค้าและผู้จัดหาสินค้า
          -การเพิ่มอุปสรรคของการเข้าสู่วงการ โดยการลงทุนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อปรับปรุงการทำงานหรือส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ทำให้บริษัทอื่นเกิดความท้อถอยหรือเกิดความล่าช้าที่จะเข้ามาเป็นคู่แข่งในวงการ
          -การยกระดับฐานงานเทคโนโลยีสารสนเทศเชิงกลยุทธ์ ทำให้บริษัทมีโอกาสได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ของการปฏิบัติงาน
          -การพัฒนาฐานข้อมูลทางด้านกลยุทธ์ เป็นข้อมูลที่จะช่วยสนับสนุนกลยุทธ์การแข่งของบริษัท จะเสริมการทำงานและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของบริษัท
การทำลายอุปสรรคทางธุรกิจ
          -การทำลายอุปสรรคทางด้านเวลา การทำให้ระยะเวลาการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าสั้นลงและลดการลงทุนด้านการเก็บกักสินค้าให้เหลือน้อยที่สุด
          -การทำลายอุปสรรคทางด้านภูมิศาสตร์ การทำธุรกิจในตลาดทางด้านท้องถิ่น ระดับชาติ หรือระดับโลก ทำลายระยะทางที่กีดขวางการควบคุมการบริหารงาน
          -การทำลายอุปสรรคทางด้านต้นทุน ประหยัดค่าแรงงาน ลดขนาดของคลังสินค้า ลดจำนวนศูนย์ขนส่งสินค้า และลดต้นทุนการตัดต่อสื่อสาร
          -การทำลายอุปสรรคทางด้านโครงสร้าง อินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต เอ็กซ์ทราเน็ต และเครือข่ายการสื่อสารระยะไกลอื่นๆ สามารถส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในบริการการส่งสินค้า เพิ่มขอบข่ายและแทรกซึมเข้าสู่ตลาด
การประยุกต์ใช้เชิงกลยุทธ์และประเด็นที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
รูปที่ 2 เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถทำลายอุปสรรคทางด้านเวลา ระยะทาง ต้นทุน และด้านโครงสร้าง

               การที่องค์กรใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี บริษัทอาจใช้ระบบสารสนเทศในเชิงกลยุทธ์ ในเชิงป้องกันหรือในเชิงควบคุม เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน
กระบวนการทางธุรกิจในการจัดระบบใหม่
               เป็นการปรับรื้อกระบวนการทางธุรกิจซึ่งเป็นเรื่องที่มากกว่าการทำให้กระบวนการธุรกิจเป็นไปอย่างอัตโนมัติเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาด้านประสิทธิภาพของการดำเนินธุรกิจ เหมือนกับการคิดทบทวนใหม่ตั้งแต่เริ่มแรกและออกแบบกระบวนการทางธุรกิจใหม่ทั้งหมด
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
               มีบทบาทสำคัญในการปรับรื้อกระบวนการทางธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ ความรวดเร็วความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและการเชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของขั้นตอนทางธุรกิจได้เป็นอย่างมาก
การปรับปรุงคุณภาพของธุรกิจ
              วิธีการเปลี่ยนแปลงการทำงาน รวมทั้งการปรับรื้อระบบ การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่องและเทคนิคการปรับโครงสร้างต่างๆ บางบริษัทได้รวมวิธีการต่างๆเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งวิธี
การบริหารคุณภาพโดยรวม
               เป็นมากกว่าวิธีการเชิงกลยุทธ์สำหรับการปรับปรุงธุรกิจ คุณภาพจะเป็นสิ่งที่ถูกเน้นหนักจากมุมมองของลูกค้ามากกว่าตัวผู้ผลิตเอง ดังนั้น คุณภาพจำเป็นต้องตรงตามความต้องการหรือมากกว่าความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าผู้บริโภคสินค้าและบริการนั้น ก้าวขึ้นเป็นคู่แข่งที่ฉับไว ความว่องไวคล่องตัวหรือฉับไวในสภาวการณ์ที่มีการแข่งขันกันสูงนั้น เป็นความสามารถทางธุรกิจที่จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไปได้ด้วยดี สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูงมีผลผลิตที่ดีและเหมาะกับที่ลูกค้าต้องการ
การสร้างบริษัทเสมือน
              สามารถทำให้ผู้บริหาร วิศวกร นักวิจัย และพนักงานในสาขาอื่นๆ จากทั่วโลกประสานงานร่วมมือกัน เพื่อผลิตคิดค้นสินค้าและบริการใหม่ๆ โดยไม่ต้องมาพบปะพูดคุยกันตัวต่อตัว

กลยุทธ์ของบริษัทเสมือน
              - ใช้โครงสร้างพื้นฐานและความเสี่ยงร่วมกัน
              - เชื่อมโยงความสามารถหลักเข้าด้วยกัน
              - ลดเวลา ด้วยการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
              - เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและการครอบคลุมทางตลาด
              - เข้าถึงตลาดใหม่ และแบ่งตลาดหรือลูกค้าให้กัน
              - เปลี่ยนจากการขายสินค้ามาเป็นขายวิธีการแก้ปัญหา
การสร้างบริษัทที่สร้างสรรค์ความรู้
                 คือ บริษัทที่สร้างความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอและแพร่กระจายความรู้นั้นออกไปให้ทั่วในองค์กรรวมทั้งรีบปรับตัวเข้าสู่เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ได้
ระบบการบริหารความรู้
                  การบริหารความรู้ จึงได้กลายมาเป็นหนึ่งในการใช้ประโยชน์เชิงกลยุทธ์ทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่สำคัญ เพื่อให้เรียนรู้การบริหารองค์กรและเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจ เป้าหมายคือ ช่วยให้พนักงานที่มีความรู้ได้สร้างจัดระบบและกระจายความรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับธุรกิจ
การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมีกลยุทธ์
                -  การปรับปรุงด้านต้นทุนและประสิทธิภาพ
               -  การปรับปรุงผลการทำงานในด้านความมีประสิทธิผลทางธุรกิจ
               -  การเข้าสู่ตลาดในระดับโลก
               -  การเปลี่ยนแปลงสินค้าและบริการ

 ลูกโซ่การเพิ่มมูลค่าของอินเทอร์เน็ต
                 สามารถช่วยให้บริษัทประเมินการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในเชิงกลยุทธ์ได้และยังสามารถถูกใช้สำหรับจัดวางตำแหน่งของระบบงานที่มีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานของบริษัทได้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขันด้วย
ความท้าทายของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
                 การใช้ประโยชน์เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ผู้จัดการมองระบบสารสนเทศในแนวใหม่ ระบบสารสนเทศมิใช่เป็นเพียงความจำเป็นทางด้านการปฏิบัติงาน และยังเป็นผู้ช่วยที่มีประโยชน์ในการจัดหาข้อมูลและเครื่องมือในการตัดสินใจของระดับบริหารอีกด้วย
ความสำเร็จในเชิงกลยุทธ์ที่ยั่งยืน
               1. สภาพแวดล้อม ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม คือโครงสร้างของอุตสาหกรรม
               2.ปัจจัยพื้นฐาน ตำแหน่งเฉพาะในวงการอุตสาหกรรม โครงสร้างองค์กร พันธมิตร สินทรัพย์ ทรัพยากรทาง เทคโนโลยีและทรัพยากรความรู้
               3.การทำการบริหารและกลยุทธ์ การพัฒนาและริเริ่มให้เกิดการกระทำและกลยุทธ์ที่นำไปสู่ความสำเร็จ

แหล่งที่มา : http://www2.cvc.ac.th/trsai/it/learning1/chapter12.htm

💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛

คำถามกรณีศึกษา

1.อินทราเน็ตและเอ็กซ์ทราเน็ต ช่วย Ford ในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการการทำงานทางธุรกิจได้อย่างไร

  ตอบ           อินทราเน็ตของ Ford เชื่อมต่อสถานีงานจำนวน 120,000 แห่ง ของสำนักงานและโรงงานทั่วโลกเข้ากับแหล่งข้อมูลนับพันๆเว็บไซด์ของ Ford

2.ผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ได้จากการแลกเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานของ Fond ก่อให้เกิดอะไรบ้าง

  ตอบ           Ford ใช้เอ็กซ์ทราเน็ตเพื่อเปิดอินทราเน็ตของตนให้แก่ผู้จัดหาสินค้ารายใหญ่ๆ อนุญาติให้ผู้จัดหาสินค้าได้ข้อมูลที่ชัดเจนลงไป

3.ผลกำไรที่ Fond หวังว่าจะได้รับจากการใช้อินเทอร์เน็ต เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในขั้นตอนการสั่งซื้อคืออะไร

  ตอบ          คือการผลิตยานยนต์ส่วนใหญ่ได้ตามความต้องการภายในปี 1999 โดยจะจัดส่งให้ภายใน 2สัปดาห์หลังจากการสั่งซื้อ สิ่งนี้จะประหยัดเงินได้หลายล้านเหรียญสหรัฐในสภาพคลังสินค้าและค่าใช้จ่ายปัจจุบัน

แหล่งที่มา : https://nuanluk-wwwsurinmuti.blogspot.com/2011/09/8.html

💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛

แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 8

1.ถ้าให้นักศึกษาเป็นผู้บริหารในองค์กร จะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นประโยชน์ในการแข่งขันด้านการตลาดของตนอย่างไร และมีข้อสังเกตอย่างไรกับการทำธุรกิจในปัจจุบัน

 ตอบ           ความเป็นผู้นำ ด้านราคา ลดต้นทุนการจัดซื้อสร้างความแตกต่าง วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า  ส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นนวัฒกรรม  เป็นผู้นำในตลาดความเจริญเติบโต พันธมิตร 
                   คุณค่าด้านกลยุทธ์ในทางธุรกิจประการหนึ่งของเทคโนโลยีสารสนเทศ ก้คือ บทบาทที่ก่อให้เกิดการพัฒนาที่สำคัญในขั้นตอนต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท การลงทุนในเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถช่วยให้ขั้นตอนในการปฏิบัติงานภายในมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. กลยุทย์บทบาทของระบบสารสนเทศอะไร ที่จะนำมาช่วยในกระบวนการการปรับรื้อระบบ และการจัดการคุณภาพ

ตอบ           เทคโนโลยีสารสนเทศ มีบทบาทสำคัญในการปรับรื้อกระบวนการทางธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ ความรวดเร็วความสามรถในการประมวลผลข้อมูล และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามรถเพิ่มประสิทฺภาพของขั้นตอนทางธุรกิจได้เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับการติดต่อสื่อสารและการประสานงานในหมู่ที่รับผิดชอบในการทำงานและการบริหาร 

3. จงตกตัวอย่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จจากการใช้กระบวนการปรับรื้อทางธุรกิจ

 ตอบ          บริษัทรถยนต์ฟอร์ด ได้ปรับเปลี่ยนขั้นตอนของการจัดซื้อ อันเป็นกรณีตัวอย่างของการปรับรื้อกระบวนการทางธุรกิจ
4. จงยกตัวอย่างความสำเร็จของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์
 ตอบ           บริษัท ซิลโก ซิสเต็ม  เป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการสื่อสารระยะไกลที่มีชื่อเสียงระดับโลก

5. จงยกตัวอย่างความล้มเหลวของระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์

ตอบ           1. แรงหลักดันจากลูกค้า (Customer Driven) การเปิดเสรีทางการค้าในอุตสาหกรรมและบริการหลายประเทศ ทำให้คู่แข่ง สามารถเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมากและลูกค้ามีทางเลือกในการตัดสินใจ เลือกซื้อมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า ธุรกิจต้อง พยายามหาความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม โดยอาศัยการศึกษาและการวิจัยตลาด เพื่อที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่ สอดคล้องความ ต้องการของลูกค้า 
                   2. การแข่งขันระดับโลก (Global Competition) การเติบโตที่รวดเร็วและพัฒนาการที่ต่อเนื่องของระบบเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ ส่ง ผลให้หลายธุรกิจขยายตัวจนมีขอบเขตข้ามพรมแดนของรัฐ หรือ ที่เรียกว่า "บริษัทข้ามชาติ (Multinational Corporation , MNC)" ทำให้ธุรกิจที่อยู่รอดในอนาคตจะต้องพัฒนาความเข้มแข็งและความสามารถในการปรับตัวให้รวดเร็วและถูกต้อง เพื่อที่จะ แข่งขันบนเวทีโลกได้ อย่างสมบูรณ์ 
                  3. การกำหนดขนาดที่เหมาะสม (Rightsizing) การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ผู้บริหาร องค์การ ต้องทำการปรับรูปแบบโครงสร้างองค์การให้เหมาะสม โดยการใช้ ทรัพยากรร่วมกัน (Shared Resources) เพื่อลด ความฟุ่มเฟือย ในการ ใช้ทรัพยากรทางธุรกิจและสามารถดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ  
                 4. คุณภาพ (Quality) ในปัจจุบันทั้งธุรกิจและผู้บริโภคต่างตื่นตัวต่อแนวความคิดด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการ เนื่องจากลูกค้า ไม่เพียงแต่ต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการเท่านั้น แต่เขา ต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับเงิน ที่เสียไป หลายองค์การ ได้ พยายามพัฒนาคุณภาพและบริการของตน โดยนำหลักการจัดการด้านการดำเนินงานสมัยใหม่ (Modern Operations Management) มาประยุกต์ให้ในการสร้างคุณภาพของงาน เช่น การจัดการคุณภาพโดยรวม (Total Quality Management , TQM) การผลิตแบบไม่มี ข้อผิดพลาด (Zero Defect) หรือคุณภาพจากแหล่งกำเนิด (Quality at Source)เป็นต้น 
                 5. เทคโนโลยี (Technology) ธุรกิจนำเทคโนโลยีโดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ให้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน ไม่เพียงเพื่อเพิ่มผลผลิตภาพรวมขององค์การ เช่น การลดค่าใช้จ่ายและ ระยะเวลาในการดำเนินงานให้สั้นลงเท่านั้น แต่เทคโนโลยี ได้กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ ซึ่งช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันแก่ธุรกิจ นอกจากนี้การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ของธุรกิจยังช่วย สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในความรู้สึกของผู้บริโภค 

6. จงอธิบายประโยชน์ของบริษัทเสมือน

ตอบ       -ใช้โครงสร้างพื้นฐาน และความเสี่ยงร้วมกัน
             -เชื่อมโยงความสามรถหลักเข้าร่วมกัน
             - ลดเวลา โดยการใช้ประโยชน์ร่วมกัน
             -อุปกรณือำนวยความสะดวกและการควบคลุมทางตลาด
             -เข้าถึงตลาดใหม่ ๆ และแบ่งตลาดหรือลูกค้าให้กัน
              -เปลี่ยนจากการขายสินค้ามาเป็นขายวิธีการแก้ไขปัญหา

7. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเป็นกลยุทธ์ในระหว่างการทำธุรกิจ ซึ่งสามารถประสานงานระหว่างลูกค้า ร้านค้า และอื่น ๆ ได้อย่างไร

ตอบ        โดยสร้างเครือข่ายสื่อสารผ่านดาวเทียมที่เชื่อมโยงทุกร้านเข้าด้วยกัน เครือข่ายดังกล่าวถูกออกแบบให้ ผู้จัดการ ผู้จัดซื้อ ผู้ซื้อ และ ฝ่ายขาย ทำงานร่วมกัน ดดยผ่านทางอินเตอร์เน็ต ในตลาดออนไลน์
แหล่งที่มา : https://nuanluk-wwwsurinmuti.blogspot.com/2011/09/8.html

💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛💛





วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

สรุปบทที่ 7 ระบบสารสนเทศสำหรับสนับสนุนการตัดสินใจด้านการบริหาร คำถามกรณีศึกษาและแบบฝึกหัดท้ายบท

สรุปบทที่ 7

 ระบบสารสนเทศสำหรับสนับสนุนการตัดสินใจด้านการบริหาร



สารสนเทศ การตัดสินใจและการจัดการ
        ระดับของการจัดการตัดสินใจนั้นต้องได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อความสำเร็จภายในองค์กร ได้แก่
-         การจัดการด้านกลยุทธ์ คณะกรรมการอำนวยการ สมาชิกผู้บริหารและผู้บริหารระดับสูง กำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ นโยบายและการวางแผนภายในองค์กร
-         การจัดการด้านยุทธวิธี ผู้จัดการหน่วยงาน วางแผนระยะสั้นและระยะกลาง กำหนดตารางเวลา งบประมาณและนโยบายขั้นตอนการทำงานและเป้าหมายทางธุรกิจสำหรับหน่วยย่อยภายในองค์กร
-         การจัดการด้านการปฏิบัติการ สมาชิกภายในกลุ่มหรือการปฏิบัติการของผู้จัดการ ในการจัดการวางแผนระยะสั้น


รูปที่ 1 ความต้องการข้อมูลข่าวสารสำหรับผู้ที่ต้องตัดสินใจ ประเภทของข้อมูลที่ต้องการจากผู้บริหาร ผู้จัดการและสมาชิกในทีมงาน ซึ่งเน้นความสัมพันธ์ของระดับในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องและโครงสร้างสำหรับเหตุการณ์ของการตัดสินใจที่ต้องเผชิญหน้า

ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
          เป็นประเภทพื้นฐานของระบบที่สนับสนุนการจัดการและยังเป็นประเภทหลักของระบบสารสนเทศอีกด้วย เป็นตัวสร้างข้อมูลที่สนับสนุนความต้องการในการตัดสินใจสำหรับงานการจัดการวันต่อวัน การสร้างรายงาน
ทางเลือกสำหรับการจัดการรายงาน
-         รายงานตามตารางเวลาปกติ การจัดการรายงานในรูปแบบของการกำหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อเตรียมการจัดการกับข้อมูลในพื้นฐานที่เหมือนกัน
-         รายงานการยกเว้น เป็นการสร้างรายงานเมื่อมีเงื่อนไขการยกเว้นนั้นๆ เกิดขึ้น หรือเป็นรายงานตามกำหนดเวลาแต่มีจ้อมูลเฉพาะสำหรับเงื่อนไขที่ต้องการยกเว้น
-         รายงานความต้องการและการตอบสนอง  สารสนเทศเป็นสิ่งที่สามารถใช้ได้ตลอกเวลาที่ต้องการ
-         รายงานสนับสนุน สารสนเทศจะถูกส่งหรือผลักไปยังเครื่องของผู้จัดการโดยตรง ซึ่งหลายบริษัทใช้ซอฟต์แวร์การกระจายทางเว็บ
กระประมวลผลการวิเคราะห์ต่อตรงหรือออนไลน์
-         การรวบรวมให้เป็นหนึ่งเดียว เกี่ยวข้องกับการรวบรวมของข้อมูล เกี่ยวข้องกับการจับกลุ่มที่ซับซ้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับความสำพันธ์ภายในข้อมูล
-         การเจาะลึก OLAP สามารถเข้าไปในทิศทางตรงกันข้ามและแสดงรายละเอียดข้อมูลโดยอัตโนมัติ ที่เรียกว่า เจาะลึก
-         การแบ่งส่วนและการสุ่ม อ้างอิงถึงความสามรถในการตรวจดูฐานข้อมูลจากจุดตรวจสอบที่แต่งต่างกันในการแบ่งส่วนออกหนึ่งส่วนของฐานข้อมูลในการขายอาจจะแสดงรายการของการขายของสินค้าประเภทที่อยู่ในขอบเขตทั้งหมด
รูปที่ 2 การประมวลผลการวิเคราะห์ออนไลน์ อาจเกี่ยวข้องกับการใช้แม่ข่ายแบบพิเศษและฐานข้อมูลมัลติมีเดีย ซึ่งมีการจัดเตรียมคำตอบสำหรับความต้องการที่ยุ่งยากจากผู้จัดการหรือนักวิเคราะห์ที่จะใช้ในการจัดการ สนับสนุนการตัดสินใจ และบริหารระบบสารสนเทศ

ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
มีขั้นตอน คือ 
1. รูปแบบจำลองในการวิเคราะห์ 
2.ฐานข้อมูลเฉพาะ 
3. ผู้ที่ตัดสินใจหรือผู้ตัดสินใจ
4.การติดต่อระหว่างกัน
         รูปแบบจำลองและซอฟแวร์ของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เป็นส่วนประกอบที่เป็นตัวช่วยของรูปแบบจำลองที่ใช้ในการคำนวณและการวิเคราะห์ประจำวันซึ่งโปรแกรมอาจจะมีรูปแบบจำลองที่มีความสัมพันธ์กับจำนวนของตัวแปร

รูปที่ 3 ส่วนประกอบของระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางการตลาด หมายเหตุ แสดงความเกี่ยวข้องของ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ รูปแบบจำลอง ข้อมูล และแหล่งข้อมูลบนเครือข่าย

การใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
-         การวิเคราะห์แบบวอทอิฟ ผู้ใช้สามารถจะเปลี่ยนแปลงตัวแปรหรือจำนวนความสัมพันธ์ของตัวแปรและความชัดเจนของผลลัพธ์ที่ได้จากค่าของตัวแปรอื่นๆ
-         การวิเคราะห์แบบละเอียด เป็นกรณีพิเศษของการวิเคราะห์แบบวอทอิฟ ค่าของตัวแปรเพียงหนึ่งตัวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในตัวแปรอื่นๆ
-         การวิเคราะห์แบบค้นหาเป้าหมาย เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการวิเคราะห์แบบวอทอิฟและแบบละเอียดจะเป็นการแทนที่ของสิ่งที่เห็นได้ชัดว่ามีการเปลี่ยนแปลงในตัวแปรที่มีผลกับตัวแปรอื่น
-         การวิเคราะห์แบบเหมาะสม เป็นการขยายความซับซ้อนที่มากขึ้นสำหรับการวิเคราะห์ค้นหาเป้าหมายโดยแทนที่ค่าของเป้าหมายเฉพาะสำหรับตัวแปร เพื่อค้าหาค่าที่เหมาะสมสำหรับตัวแปรหนึ่งตัวหรือมากกว่านั้น หลังจากนั้นตัวแปรอื่นจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหาร
          เป็นระบบสารสนเทศที่มีการรวบรวบเอาลักษณะการทำงานระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการหลายๆ ตัวร่วมกับระบบการสนับสนุนในการตัดสินใจ
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในธุรกิจ
ภาพรวมของปัญญาประดิษฐ์
          เป็นการสร้างเส้นทางการการกลับไปยังเส้นทางการทำงานของบริษัทที่ใช้เทคโนโลยี ช่วงเวลาที่สำคัญของระบบธุรกิจ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับความได้เปรียบทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมทุกประเภท ทั้งด้านอิเล็กทรอนิกส์ ระบบขนส่ง อุตสาหกรรมการผลิต

รูปที่ 4 ส่วนของการปฏิบัติการหลักของปัญญาประดิษฐ์ ในการปฏิบัติการหลายอย่างของปัญญาประดิษฐ์ที่จัดกลุ่ม 3 ส่วนหลักของศาสตร์เกี่ยวกับการรับรู้ หุ่นยนต์ และลักษณะการทำงานที่เป็นธรรมชาติ

ขอบเขตของปัญญาประดิษฐ์
          1.    ศาสตร์แห่งการรับรู้ ในส่วนของปัญญาประดิษฐ์จะตั้งอยู่ในการวิจัยทางด้านชีววิทยา ประสาทวิทยา จิตวิทยา คณิตศาสตร์และการฝึกฝนในหลายๆอย่างที่เกี่ยวข้องกัน
          2.  หุ่นยนต์ วิศวกรรม และชีววิทยา เป็นพื้นฐานการทดสอบสำหรับการออกแบบหุ่นยนต์ เทคโนโลยีได้มีการผลิตเครื่องจักรหุ่นยนต์ร่วมกับคอมพิวเตอร์ที่ชาญฉลาดให้มีความสามารถทางร่างกายที่เหมือนกับมนุษย์
         3.  ลักษณะการทำงานที่เป็นธรรมชาติ การพัฒนาลักษณะการทำงานที่เป็นธรรมชาติเป็นการพิจารณาจากหลักของการปฏิบัติการทำปัญญาประดิษฐ์และเป็นส่วนที่สำคัญในการใช้ธรรมชาติของมนุษย์
เครือข่ายเส้นประสาท
          เป็นแบบจำลองระบบการประมวลผลที่เหมือนเครือข่ายเส้นใยประสาทของสมองมนุษย์ที่เชื่อมโยงกัน เรียก เส้นประสาท ที่ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมพื้นฐานจำนวนมากด้วยลักษณะที่คล้ายคลึงกับสมอง ที่มีกระบวนการเชื่อมต่อในลักษณะคู่ขนานและการเคลื่อนที่สื่อสารระหว่างกันทำให้เกิดเครือข่ายความสามารถ เรียก เรียนรู้
ระบบตรรกะที่ไม่ชัดเจน
          เป็นการแทนสิ่งที่เล็ก แต่มีประสิทธิภาพและมีการเติบโตในระบบงานของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในหน่วยงานทางธุรกิจเป็นวิธีการของการให้เหตุผลที่คล้ายๆกับมนุษย์ โดยพิจารณาสิ่งที่ไม่สมบูรณ์หรือข้อมูลที่ไม่ชัดเจน
เจนนิทิคอัลกอลิธึม
          เป็นประโยชน์เฉพาะเพื่อใช้สำหรับการแก้ปัญหานับพันๆที่มามารถเกิดขึ้นได้และต้องมีการประเมินค่าในการจัดการในการแก้ปัญหาที่เหมาะสม ซอฟต์แวร์นี้จะใช้บทบาทของชุดขั้นตอนการทำงานทางคณิตศาสตร์
ความจริงเสมือน
          เป็นการจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ที่พยายามที่จะสร้างให้เป็นธรรมชาติ ดูเสมือนจริงมีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ ที่อาศัยอุปกรณ์ป้อนข้อมูลและส่งข้อมูลที่มีความหลากหลายทางความรู้สึก
การประยุกต์ใช้ความจริงเสมือน
          มีขอบเขตที่กว้างขวางและอาศัยการช่วยเหลือเบื้องต้นในการออกแบบของคอมพิวเตอร์ เป็นการปรากฏทางไกล เมื่อผู้ใช้ไปทุกแห่งทั่วโลกและยังสามารถใช้ระบบ VR ในการทำงานเดี่ยวหรือทำงานร่วมกันในการควบคุมระยะไกล
ข้อจำกัดของความจริงเสมือน  ต้นทุนของเทคโนโลยีสูง
ตัวแทนชาญฉลาด
          เป็นตัวแทนซอฟต์แวร์สำหรับผู้ใช้หรือขั้นตอนการทำงานเพื่อเติมส่วนที่ต้องการจะใช้การสร้างและการศึกษาความรู้เกี่ยวกับผู้ใช้งาน บางครั้งจะใช้กราฟิกเป็นตัวแทน
ผู้วิเศษของไมโครซอฟต์
          ผู้ช่วยแก้ปัญหาตรงจุดที่มีความสามารถใช้งานที่ช่วยแก้ไขปัญหาในการทำงานภายในโปรแกรม จะมาพร้อมกับกลไกข้อวินิจฉัยที่สามารถเลือกสาเหตุปัญหาที่น่าจะเป็นไปได้
ระบบผู้เชี่ยวชาญ
          ระบบสารสนเทศฐานองค์ความรู้ได้เพิ่มการรับรู้เข้ากับส่วนประกอบหลักที่พบได้ภายในประเภทระบบสารสนเทศในเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆทั่วไป
องค์ประกอบของระบบผู้เชี่ยวชาญ
-         ฐานองค์ความรู้ ได้แก่ 1) ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหัวเรื่องหลัก 2) ตัวช่วยหาที่ชัดเจนในขั้นตอนการให้เหตุผลของผู้เชี่ยวชาญในหัวเรื่องนั้นๆ
-         ทรัพยากรซอฟต์แวร์  ระบบผู้เชี่ยวชาญจะมีตัววินิจฉัยหรือข้อสรุปและโปรแกรมอื่นสำหรับกรองความรู้และการสื่อสารกับผู้ใช้งาน

รูปที่ 5 ส่วนประกอบของระบบผู้เชี่ยวชาญ โมดูลซอฟต์แวร์จะมีการวินิจฉัยการทำงานในการสร้างฐานองค์ความรู้มาจากผู้เชี่ยวชาญและ/หรือวิศวกรที่มีความรู้

การประยุกต์ใช้ระบบผู้เชี่ยวชาญ
          เกี่ยวข้องกับการโต้ตอบในการทำงานของในคอมพิวเตอร์ เพื่อการแก้ไขปัญหาที่พบ ซึ่งการทำงานนี้จะให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้ ถามคำถาม ทำการค้นหาฐานความรู้สำหรับปัจจัยและบทบาทหรือความรู้อื่นๆ อธิบายเหตุผลและคำแนะนำที่เชี่ยวชาญกับผู้ใช้งาน
การพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญ
          การใช้ระบบนี้เป็นเครื่องมือในการพัฒนา ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ช่วยเหลือระบบผู้เชี่ยวชาญ โดยที่ไม่ได้ใช้เนื้อหาของฐานองค์ความรู้ แต่จะใช้ระบบนี้ของซอฟต์แวร์กับข้อวินิจฉัยทั่วไปและความสามารถของลักษณะการทำงานของผู้ใช้
วิศวกรรมความรู้
          เป็นบุคคลที่ทำงานด้วยความเชี่ยวชาญที่มีความรู้ในขั้นตอนการทำงานเป้นอย่างดี ทำหน้าที่สร้างฐานองค์ความรู้ การใช้งานซ้ำๆ ขั้นตอนการทำงานที่เป็นต้นฉบับจนกระทั่งระบบผู้เชี่ยวชาญนั้นจะยอมรับ
ประโยชน์ของระบบผู้เชี่ยวชาญ
          มีความรวดเร็วและมีการให้ความช่วยเหลือที่ดีกว่า มีความรู้ในความหลากหลายของความชำนาญ ไม่มีความเหนื่อยล้าหรือขาดสมาธิจากการทำงานหนัก ช่วยให้มีการป้องกันจากอันตรายและการเกิดซ้ำ ช่วยป้องกันความรู้ที่มีความเชี่ยวชาญก่อนที่จะออกไปจากองค์กร
ขีดจำกัดของระบบผู้เชี่ยวชาญ
          ขาดความสามารถในการเรียนรู้ ปัญหาที่คั่งค้าง และต้นทุนในการพัฒนา สามารถช่วยในการแก้ปัญหาในปัญหาเฉพาะที่อยู่ในขอบเขตความรู้ที่จำกัดขอบเขต มีความยากในการใช้งาน มีต้นทุนในการพัฒนาและการบำรุงรักษาที่สูง
ระบบปัญญาประดิษฐ์ผสมผสาน
          ทำให้ธุรกิจมองหาระบบที่เหนือกว่าระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการและระบบการสนับสนุนการตัดสินใจที่จะช่วยพวกเขาแก้ไขปัญหาจากบุคคลที่มีความชำนาญ ซึ่งคำตอบคือ ระบบผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายเส้นประสาท ซึ่งสามารถร่วมกันทำงานภายในระบบที่มีการเตรียมการทำงานที่ดีที่สุดของสองเทคโนโลยี

ที่มา : http://www2.cvc.ac.th/trsai/it/learning1/chapter12.htm

💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

คำถามกรณีศึกษา


Parsons Brinckhoff: ระบบอินทราเน็ตที่ว่า ระบบสารสนเทศของทุกๆคน

   1.    ทำไมการทำงานร่วมกันในระบบอินทราเน็ตจึงกลายมาเป็น ระบบสารสนเทศของทุกๆคน
          ตอบ  การทำงานร่วมกันของระบบอินทราเน็ตกลายเป็นสิ่งที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในแต่ละระดับอย่างเช่นผู้จัดการและผู้เชี่ยวชาญในทุกระดับสามารถใช้อินทราเน็ตในการเข้าถึงข้อมูลและแบ่งปันข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับปัจจัยหลักของธุรกิจและคู่แข่งขันกันได้
   2.    อะไรเป็นแนวคิดระบบสารสนเทศที่คุณได้จากระบบอินเทราเน็ตของบริษัทและเครื่องมือค้นหาของ Fulcrum
          ตอบ แนวคิดก็คือการที่ระบบอินทราเน็ตเป็นระบบสารสนเทศของทุกๆคนที่เราสามารถที่จะเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกกับการใช้งาน
   3.    อะไรเป็นผลประโยชน์ในทางธุรกิจสำหรับระบบอินทราเน็ตและเครื่องมือค้นหาภายในบริษัท
          ตอบ  ช่วยเพิ่มการคืนทุนและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยการลดเวลาที่ไม่จำเป็นสำหรับการเข้าถึงและจัดการข้อมูลสารสนเทศในระบบอินทราเน็ตในบริษัท ช่วยให้พนักงานในบริษัทใช้ระบบอินทราเน็ตเป็นเครื่องมือการแข่งขันสำหรับโครงการทางวิศวกรรมใหม่ๆ

ที่มา : http://saowalak-pmis.blogspot.com/2011/09/7-1.html 

💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕

แบบฝึกหัดท้ายบทที่7


   1.    อะไรคือความแตกต่างระหว่างความสามารถของผู้บริหารในการเรียกข้อมูลออกมาใช้ตามความต้องการของระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการและความสามารถจัดการเรื่องบริหารการตัดสินใจโดยใช้ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ
          ตอบ           ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ มีการเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานภายในองค์กรในการตัดสินใจ รูปแบบของสารสนเทศจะกำหนดล่วงหน้าและระเบียบวิธีในกระบวนการสารสนเทศเป็นการสร้างข้อมูลโดยการโอนหรือการย้ายของข้อมูลธุรกิจ
                        -         ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ มีการเตรียมข้อมูลและเทคนิคการตัดสินใจในการวิเคราะห์ปัญหาเฉพาะหรือโอกาส การตรวจสอบการติดต่อระหว่างกันและการตอบสนอง รูปแบบจะเป็นเฉพาะตามต้องการ มีความยืดหยุ่นที่สามารถปรับใช้ได้และการสร้างข้อมูลจากรูปแบบจำลองในการวิเคราะห์ของข้อมูลธุรกิจของระเบียบวิธีในกระบวนการสารสนเทศ
   2.    ระบบงานการขาย มีความก้าวหน้ากว่าแต่ก่อนมาก เมื่อต้องการจ้อมูลสำหรับการทำงานในองค์กร เนื่องจากความต้องการเรื่องกลยุทธ์ เทคนิค และการบริหารการตัดสินใจในธุรกิจเปลี่ยนไป ให้นักศึกษาอธิบายเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงนี้
          ตอบ การจัดการด้านกลยุทธ์ คือเมื่อก่อนจะเป็นขณะกรรมการอำนวยการ สมาชิกผู้บริหารและผู้บริหารระดับสูง และในปัจจุบันเรื่องนี้ต้องมีความรู้หรือความต้องการเพื่อใช้ในการทำงานหรือการบริหารงานในการตัดสินใจ
   3.    มีแนวทางไหนบ้าง ที่นักศึกษาใช้โปรแกรมตารางคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่นำมาช่วยในการตัดสินใจ
          ตอบ   รูปแบบจำลองระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เป็นส่วนประกอบที่เป็นตัวช่วยของรูปแบบจำลองที่ใช้ในการคำนวณและการวิเคราะห์ประจำวัน ซึ่งโปรแกรมอาจจะมีรูปแบบจำลองที่มีความสำพันธ์กับจำนวนตัวแปร
   4.    ทำไมการใช้ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูง จึงขยายไปยังระดับกลางและขยายไปทั่วหมดทุกแผนกในองค์กร
          ตอบ   ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารระดับสูงนั้นในปัจจุบันในระดับอื่นๆหรือบุคคลทั่วไปก็จำเป็นต้องรู้ เพราะระบบสารสนเทศจะมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
   5.    ทำไมเครื่องคอมพิวเตอร์จึงสามารถคิดได้ อธิบายเหตุผล
         ตอบ   เพราะคอมพิวเตอร์มีระบบที่เหมือนสมองของมนุษย์และมีเส้นประสาทที่คล้ายคลึงกับมนุษย์และยังสามารถจดจำสิ่งต่างๆๆที่มนุษย์ป้อนเข้าไปได้ดีมากด้วย
   6.    การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในองค์กร ส่วนไหนสำคัญที่สุด บอกเหตุผลที่นักศึกษาเลือก
         ตอบ  ตัวแทนชาญฉลาด เพราะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในงานประจำวันที่ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยให้ผู้ใช้งานประสบความสำเร็จในหลายๆประเภทของงาน เป็นตัวแทนซอฟต์แวร์สำหรับผู้ใช้หรือขั้นตอนการทำงานเพื่อเติมส่วนที่ต้องการตัวแทนชาญฉลาดจะใช้การสร้างและการศึกษาความรู้เกี่ยวกับผู้ใช้งาน
   7.    การผสมผสานระหว่างระบบผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายเส้นประสาท จะก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง นักศึกษาคาดหวังว่าจะเกิดเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างไรบ้าง
         ตอบ เครือข่ายเส้นประสาทเป็นแบบจำลองประมวลผลที่เหมือนเครือข่ายเส้นใยประสาทของสมองมนุษย์ที่เชื่อมโยงกันและระบบผู้เชี่ยวชาญจะประกอบด้วยฐานความรู้และโมดูลของซอฟต์แวร์ที่มีการหาข้อวิจัยบนความรู้และสื่อสารสำหรับให้คำตอบสำหรับคำถามที่มาจากผู้ใช้งาน ซึ่งถ้ามีการพัฒนาขึ้นอีกเกิดเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่ดีกว่านี้ที่มนุษย์สามารถใช้ระบบนี้ที่ง่ายขึ้น
   8.    อะไรคือขอบเขตจำกัดหรืออันตรายที่นักศึกษามองเห็น ในการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญ ความจริงเสมือนและตัวแทนสติปัญญาและอะไรที่จะลดขนาดของผลกระทบเหล่านี้ลงได้
         ตอบ ข้อจำกัดของความจริงเสมือนก็คือจะมีค่าใช่จ่ายที่สูงในการใช้เทคโนโลยีนี้และความเสี่ยงทางด้านการตลาด ข้อจำกัดของระบบผู้เชี่ยวชาญซึ่งถ้าเกิดการโกงนั้นยากที่จะพบได้ และการที่จะลดขนาดของผลกระทบเหล่านี้ได้ ต้องมีการคิดและพัฒนาระบบให้รัดกุมและได้มาตรฐานให้ได้ดีกว่านี้

ที่มา : http://saowalak-pmis.blogspot.com/2011/09/7-1.html 

💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕